fbpx

9 สิ่งเหล่านี้…พ่อแม่ทำให้ลูกเป็นคนไม่รู้จักโต แบบไม่รู้ตัว

ไม่ว่ายังก็ตาม พ่อแม่ก็คือ คนที่รักลูกมากที่สุด

คนที่หวังดีกับลูกเสมอ แต่ในบางครั้งความหวังดีของพ่อแม่ ก็อาจย้อนกลับมาทำ ร้ า ยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจก็ได้

และกว่าพ่อแม่จะรู้ตัวนั้น มันก็อาจสายเกินไป

พ่อแม่ควรเริ่มต้นสร้างนิสัยเด็กด้วยการทำให้ตัวเอง เป็นแบบอย่างพร้อมกับฝึก

ให้เด็ กรับรู้ รู้จักรับผิดชอบด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 9 พฤติกร ร ม

พ่อแม่ควรเลิกทำ เมื่ออย ากให้ลูกเติบโตมีอนาคตดี

สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็ ก สามารถหาแนวทางการดำเนินชีวิตตามบทบาท ตามหน้าที่ของตนเองได้

1.ซักเสื้อผ้าให้

พอลูกโตพอที่จะทำงานบ้านเองได้ แต่พ่อแม่ไม่เคยฝึกให้ลูกทำด้วยตัวเองแล้ว การที่คุณแม่ซักเสื้อผ้าให้อาจทำให้เด็ กเคยตัว เป็นคนไม่มีวินัย

หรือความรับผิดชอบในตัวเอง เพราะงั้นถ้าเด็ กอยู่ในวัยที่พอเรียนรู้ทำอะไรเองได้ แม่ก็ควรสอนลูกถึง

วิธีการใช้เครื่องซักผ้าไม่ก็การซักผ้าด้วยมือ เพื่อที่เขาจะได้ฝึกด้วยตัวเอง จะได้ทำเป็น

2.นำของที่ลูกลืม ไปให้ที่โรงเรียนลูก

การที่ลูกโทรมาบอกให้แม่นำเอาสิ่งของที่ลืม ไปให้ที่โรงเรียนโดยที่คุณก็ทำตาม และนั่นอาจทำให้ลูกๆ กลายเป็นเด็ กที่ไม่รอบคอบ

เพราะงั้นเมื่อลูกโทรมาให้พ่อแม่ทำแบบนั้น โดยที่ของชิ้นนั้น ไม่ได้มีความสำคัญแต่อย่างใดก็ควร

บอกไป ปฏิเสธไปเพื่อให้ลูก รู้จักมีความรอบคอบกว่าเดิม

3.ปลุกลูก เมื่อต้องไปโรงเรียน

เป็นกิจวัตรประจำวันของแม่เลยก็ว่าได้ ที่ต้องทำทุกเช้า ซึ่งความจริงนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกลูกตั้งนาฬิกาปลุก จัดสรรเวลานอนให้เหมาะสม

เพื่อให้เขาเรียนรู้ที่จะจัดการตัวเอง ไม่ใช่คอยให้พ่อแม่ปลุกอยู่ตลอด

4.ทำอาหารเช้า อาหารกลางวันให้

แม่ๆ หลายคนอาจเป็นห่วงว่าลูก กลัวทานไม่อิ่มได้รับสารอาหารไม่ครบงี้ฉะนั้น จึงต้องเตรียมอาหารให้ลูกๆ ทุกวัน

เมื่อคุณอย ากให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ ดูแลตัวเองเป็น ก็ควรให้เขาทำอาหารเอง หากเขาทำไม่เป็น

คุณแม่อาจจะต้อง สอนลูกก่อน

จากนั้นก็ให้เขาล อ ง ตามทำดู…

5.ไปยุ่งกับการเรียน

การเป็นห่วงในเรื่องเรียนหรือความเป็นอยู่ของลูกที่โรงเรียน มันไม่ใช่เรื่องผิ ดแต่การที่พ่อแม่ไปบงการ ไปกำหนดเส้นทางการเรียน โดยไม่ให้

เขามีสิ ทธิคิดตัดสินใจเอง นั่นแหละมันอาจจะทำให้ลูก ไม่โตเป็นผู้ใหญ่

6.ยอมให้ลูกๆ หยุดเรียน

เพราะเด็ กบางคนนั้น ก็อาจมีอาการป่ ว ยการเมื อง เพราะสาเหตุต่างๆ นาๆอาจจะเกิดจากวิชาเรียน การบ้านต่างๆ

เพราะวิชาเรียน อาจง่ายไปทำให้เด็ กเกิดความเบื่ อ หรือ เรียนย ากจนเกินไป ทำให้เด็ กเกิดความกดดัน

ว่าไม่ฉลาดคนอื่นๆ เขา และสิ่งสำคัญนั้นที่พ่อแม่ควรทำ ต้องอย่าถามลูกว่า

เพราะอะไรจึงไม่อย ากไปโรงเรียนเนื่องจากเด็ กมักไม่รู้คำตอบ พอเด็กไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

ก็จะเป็นการทำให้เด็ กรู้สึกเค รี ย ด ทั้งนี้พ่อแม่ผู้ควรบอกเด็กว่าความกลั วไม่ช่วยอะไรเลย

จงเปิดใจให้กว้าง ในการรับฟังความรู้สึกของลูก บอกเขาให้เอาชนะความกลัวให้ได้นะลูก

7.ไม่ให้ครูมา ว่ากล่าวตักเตือนลูก

หากลูกมาฟ้ องคุณว่าถูกครูว่ากล่าวตักเตือน และนั่นอาจทำให้คุณมีอาก าร หั ว ร้ อน พร้อมจะไปเคลียร์กับครูที่โรงเรียนได้ตลอดเวลา แต่เรื่องนี้นั้น

เป็นสิ่งที่จะบอกว่า พ่อแม่ต้องใจเย็นๆ นะ เราอาจต้องสอบถามลูกถึงสาเหตุที่ครูทำอย่างนั้น

และซึ่งถ้าลูกทำความผิดจริง การลงโท ษไม่ได้ร้ า ย แ ร ง พ่อแม่ก็ไม่ต้องถึงขั้นไปคุยกับคุณครูก็ได้

จงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูที่ต้องอบรมสั่งสอน

แต่สิ่งที่ควรทำคือ ให้พ่อแม่สอนลูกแทนว่า

จะต้องทำยังไง เพื่อไม่ให้โด นครูว่าหรือตีอีก

8.ทำการบ้านให้ลูก

สำหรับพ่อแม่คนใดที่ชอบทำการบ้านให้ลูก เช่นนี้ควรเลิกทำซะ เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำ มันจะทำให้ลูกไม่ได้ฝึกคิด ไม่ได้เรียนรู้อะไร

ซึ่งหากไม่อย ากให้ลูกเติบโตมาแบบไม่มีความรู้

ก็อย่ าทำ ร้ า ยลูกโดยการทำให้เขาเป็นคน “ไม่มีความรู้” เลย

9.ขี ดเส้นให้ลูกเดินตาม

กำหนด ก ฎ เ ก ณ ฑ์ ให้ลูกเดินตามที่พ่อแม่ปูไว้

และซึ่งนั่นอาจเป็นเรื่องดี ลูกจะได้มีวินัย แต่ในทุกๆ กฎที่พ่อแม่ตั้งไว้ มันก็ควรให้ลูกรับรู้ด้วย ให้ลูกมีส่วนร่วมในการขีดเส้นชีวิตตัวเอง

และต้องปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ที่ จะทำบางสิ่งด้วยตัวเอง การเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง อย่ าให้ลูกเปร า ะบาง

“เหมือนไข่ในหิน” อย่ าเลี้ยงลูกให้เห็นแก่ตัวให้เลี้ยงลูกโตไปตามวัย

อย่ าได้ “พย าย าม” ปั้นลูกเราให้เหมือนลูกใคร

อย่ าได้ “ขีดเส้น” ให้ลูกเราเดินตามลูกใคร

อย่ าได้ “ตั้งเป้า” ให้ลูกเรามีจุดหมายแบบใคร

อย่ าได้ “บังคับ” ให้ลูกเราเป็นอย่างใคร

เรามีหน้าทีเพียง เฝ้ามองค้นหา

และสนับสนุน ส่งเสริม ในตัวลูกเราให้เจอ

 

ขอบคุณ ที่มา k r u u p d a t e. c o m